วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

ชวนเที่ยวตลาดบ้านใหม่ แปดริ้ว






               พูดถึงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมก็ต้องนึกถึงตลาดน้ำเป็นอันดับแรก
เนื่่องเพราะวิถีชีวิตดั้งเดิมของไทยอาศัยลำน้ำเป็นที่พึ่งพาอาศัยมาเนิ่นนาน  ดังนั้นภาพวิถีชีวิต
ทั้งหลายประดามีก็จะมาประมวลไว้ที่วิถีชีวิตในตลาดน้ำ




             พูดถึงเรื่องตลาดน้ำในประเทศไทยทั้งใหญ่น้อยหลากหลาย   ผู้เขียนนั้นก็ชอบไปเที่ยว
เป็นอย่างโปรด   จึงมีไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ยังไม่ได้ไปเที่ยวเช่นตลาดน้ำท่าคา คลองลัดมะยม บางไทร
หัวหิน...นอกนั้นเรียบร้อย..บางตลาดเคยไปเที่ยวหลายครั้งมาก...




                 วันนี้จะขอชวนท่านผู้อ่านไปเที่ยวตลาดเก่าริมน้ำ  อายุกว่าร้อยปีตั้งแต่สมัย
รัชกาลที่ 3  นั่นก็คือตลาดบ้านใหม่ ตั้งอยู่ริมน้ำบางปะกง เป็นอู่ข้าวอู่น้ำมาแต่โบราณ 
รวมผลผลิตส่งสู่กรุงเทพฯทางคลองแสนแสบ ( ส่วนทางด้านตะวันตกส่งมาทางคลอง
ดำเนินสะดวก )




               แต่ก่อนจะไปเที่ยวตลาดบ้านใหม่  ขอพาไปไหว้หลวงพ่อโสธร ให้อิ่มเอมใจกันก่อน
ตั้งอยู่่ริมน้ำบางปะกง เดิมชื่อวัดหงส์ สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา




                    เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิหล่อสัมริด ฝีมือช่างล้านช้าง หน้าตักกว้างศอกเศษ
สวยงามมาก  ลอยทวนน้ำมา ( ข้างในกลวงจึงลอยน้ำได้ )




           จึงได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานเมื่อปี พ.ศ. 2313 สมัยกรุงธนบุรี  ต่อมาทางวัดเกรงว่า
จะถูกโจรกรรมจึงได้พอกปูนเสริมไว้จนมีลักษณะดังที่ได้เห็นในปัจจุบัน




          เสร็จแล้วถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์จะมีเรือบริการนำชมทิวทัศน์สองฝั่งชายน้ำบางปะกง
ไปขึ้นที่ท่าน้ำตลาดบ้านใหม่ทางทิศเหนือของวัดหลวงพ่อโสธร หรือเดินทางโดยรถยนต์
ตามถนนเรียบชายฝั่งแม่น้ำบางปะกงขึ้นเหนือไปไม่ไกลก็ถึงตลาดบ้านใหม่







               ตลาดบ้านใหม่เป็นตลาดชุมชนโบราณของชาวไทยเชื้อสายจีนตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3
ตั้งอยู่บริเวณปากคลอง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองแปดริ้ว( หมายถึงปลาช่อนตัวใหญ่เมื่อแล่
ผ่ากลางแล้วแผ่ออกทำปลาเค็ม  ผ่าได้ถึงแปดริ้ว )




                  จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นภาษาเขมรแปลว่า " คลองลึก " มีหลวงพ่อโสธรเป็นพระ
คู่บ้านคู่เมืองมีแม่น้ำบางปะกงเป็นจุดขายเรื่องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์




                       ตลาดบ้านใหม่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยเฉพาะด้านสถาปัตยกรรมเป็น
ตลาดห้องแถวริมน้ำเป็นเรือนไม้ร่มรื่น สวยงาม




            เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องเช่นนางนาค เจ้าสัวสยาม อยู่กับก๋ง..ฯลฯ...


       

                          ร้านกาแฟโบราณร้านนี้มี "รูปที่มีทุกบ้าน" เห็นแล้วชื่นใจจังเลย....





             นอกเหนือไปจากนั้นยังเป็นแหล่งอาหารอร่อย  ทั้งอาหารไทย/จีน รสชาติดั้งเดิม
รวมทั้งอาหารทะเล ทั้งของสดของแห้งและของฝากต่างๆมากมาย







                    เมื่อปี พ.ศ. 2547 ชาวชุมชนบ้านใหม่ได้พร้อมใจกันฟื้นฟูตลาดเก่าโบราณ
คู่ลำน้ำบางปะกงขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวคู่เมืองแปดริ้วให้เห็นชีวิตแบบย้อนยุค




           เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม  มีจุดเด่นคือการล่องเรือชมแม่น้ำบางปะกง






                   ไม่มีคำบรรยายครับ สวยงาม ..อิ่ม อร่อย สนุกเพลิดเพลิน..ประทับใจ....




                                     ................@@@@@@@@@@@@@...................


credit ;  www.oknation.net
             www.siamfreestyle.com
             www.weekendhobby.com
             www.dhamajak.net
             www.moopeakcomvoyagerte-tra.blogspot.com
             www.paiduaykun.com
             www.travel.thaiza.com







วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556

สัญลักษณ์ประเทศไทย



                                                วัดอรุณราชวราราม





           หนังสือแพิมพ์พาดหัวข่าว "กทม.ซิวเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุด 3 ปีซ้อน" นิตยสารคองเดนาส
( Conde Nast ) ซึ่งเป็นนิตยสารบริการข่าวสารข้อมูลการท่องเที่ยวชั้นนำของสหรัฐอเมริกา   ฉบับ
ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2555  เสนอผลสำรวจการโหวตของสมาชิกทั่วโลกกว่า 46,000 ราย
เรื่องเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วโลก  ปรากฎว่ากรุงเทพมหานครของเราติดอันดับ 1    นำหน้า
กรุงลอนดอนและกรุงปารีส  เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน




              ทั้งนี้ก็เพราะความหลากหลายทางวัฒนธรรมของไทย ที่มีคนหลายชาติหลายภาษา
มาอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเป็นเวลาช้านาน โดยเฉพาะบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ที่มีศิลป
วัฒนธรรมให้เที่ยวชมได้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนจนได้รับขนานนาม"The City Of Eating "




                   ครั้นเมื่อ เดอะฝาหรั่งหรือคนต่างชาติทั่วโลก ได้เห็นพระปรางค์วัดอรุณฯ ก็พลันรู้ได้
ทันทีว่านี่คือสัญลักษณ์ของประเทศไทย ควบคู่ไปกับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์




              วัดอรุณราชวราราม  จึงถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย  แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยว
นิยมไปสักการะเยี่ยมชมกันเป็นจำนวนมาก เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในระดับโลก




        เมื่อชาวต่างชาติยังดั้นด้นมาเที่ยววัดอรุณฯ ผู้เขียนเองก็ได้เคยไปเที่ยวมาแล้วหลายครั้ง
จึงใคร่จะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวชมวัดอรุณในมุมมองต่างๆ โดยเริ่มเดินทางสบายๆยามสายไป
ตั้งหลักหาของกินกันตั้งแต่บริเวณท่าพระจันทร์ เรื่อยไปถึงท่าช้างเลาะไปจนถึงท่าเตียนมีอาหาร
การกินมากมายให้เลือกหา  แล้วจึงข้ามเรือที่ท่าเตียนไปท่าน้ำวัดอรุณฯ อย่างสะดวกสบาย




          วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร   เดิมชื่อวัดมะกอก ตามชื่อตำบลบางมะกอกและก็เป็นชื่อ
เมืองบางกอก ( กทม. ) ในเวลาต่อมา   เป็นวัดเก่าที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา




           ในปี พ.ศ. 2310 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  ทรงกอบกู้กรุงศรีอยุธยาได้
สำเร็จมีพระประสงค์ที่จะย้ายราชธานีมาตั้ง ณ กรุงธนบุรี จึงกรีฑาทัพทางชลมารคล่องลงมาตาม
ลำน้ำเจ้าพระยา ถึงหน้าวัดมะกอกเป็นเวลารุ่งอรุณพอดี ต่อมาทรงพระราชทานนามเป็น"วัดแจ้ง"




         พระปรางค์เดิมที่สร้างไว้เมื่อสมัยอยุธยาสูง 8 วา พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 2 ได้ทรงบูรณะครั้งใหญ่สถาปนาให้เป็นวัดประจำรัชกาล พระราชทานนาม
วัด " อรุณราชธาราม "


                 ทรงโปรดฯให้สร้างพระปรางค์ครอบพระปรางค์องค์เดิมมีความสูงสูงถึง 67 เมตร
เป็นพระปรางค์ที่สวยงามและสูงสง่าที่สุดในโลก 




        เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนจะได้รับลมจากแม่น้ำเจ้าพระยาและเห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบอย่างสวยงาม









            ประดับประดาด้วยกระเบื้องเคลือบกระเบื้องสี เครื่องเคลือบสังคโลกเครื่องเคลือบเบญรงค์  
อย่างงดงาม ปราณีต  โดยช่างฝีมือผู้ชำนาญแห่งยุครัตนโกสินทร์ 




                 การบูรณะปฏิสังขรมาเสร็จสมบูรณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
รัชกาลที่ 4   ทรงพระราชทานนามวัด " อรุณราชวราราม"


             
                 พื้นพระอุโบสถและผนังด้านนอกปูด้วยกระเบื้องเคลือบเขียนสีจากประเทศจีน







            วัดอรุณฯเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกรัชกาล ทรงเสด็จพระราชดำเนิน
พระราชทานพระกฐินเป็นประจำทุกปี    โดยเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคด้วยเรือพระราช
พิธีที่งดงามยิ่ง  เป็นวัดหลวงชั้นเอก ( วรมหาวิหาร )



     

         การขึ้นไปชมพระปรางค์ด้านบน บันไดมีความสูงชันต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
ภาพนี้ถ้า zoom ให้ดีจะเห็นผู้เขียน ( ใส่เสื้อสีแดง ) 555....






             เมื่อขึ้นมาที่ชั้นบนสุดของพระปรางค์วัดอรุณฯได้สำเร็จก็จะหายเหนื่อยไปโดยพลัน
เพราะจะได้สัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์ สายลมเย็นจากแม่น้ำเจ้าพระยาและทิวทัศน์โดยรอบองค์
พระปรางค์ที่สวยงาม  ประทับใจแก่ทุกคนที่ได้มาเยี่ยมชม......


                   ขอขอบคุณ Youtube สารคดีท่องเที่ยววัดอรุณราชวราราม / TUMimt72..








                                     ..............&&&&&&&&&&&&&&&.............


credit : www.tinyzone.tv
             www.matichon.co.th
             www.write.dek-d.com
             www.siamphotography.com
             www.komchadluck.net
             www.kidstrocker.multiply.com
             www.bangkokbiznews.com
             www.news.mthai.com
             www.manager.co.th





วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556

ชวนเที่ยวเจียงใหม่ ( กาดหลวง )



                                      กาดวโรรส ( กาดหลวง )



 
           วันก่อนผู้เขียนได้แนะนำ พาพี่น้องแอ่ววัดพระสิงห์(วัดลีเชียง)  ซึ่งใช้เวลาในช่วงเช้าตรู่
ของวัน  ตักบาตรที่หน้าวัดพระสิงห์เสร็จแล้วเข้าไปกราบพระพุทธสิหิงค์ในวิหารลายคำ   
ชมภาพจิตกรรมฝาผนังในพระอุโบสถและโบราณสถานศิลปะล้านนา   ภายในวัดพระสิงห์
จนชุ่มฉ่ำใจกันครบถ้วนแล้ว



     
        ยังเป็นเวลาเช้าอยู่  เคยรับปากไว้ว่าจะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวตลาดวโรรส ( กาดหลวง )
ดังได้มีคำกล่าวกันว่า ถ้ามาเชียงใหม่แล้วไม่ได้ไปเที่่ยวตลาดวโรรส  ก็เท่ากับว่ามาไม่ถึงเชียงใหม่
ว่ากันถึงขนาดนั้น  เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เป็นอันจะขาดเสียมิได้โดยเฉพาะเป็นห้วงเวลาที่ท้องเริ่มหิวแล้ว



       
    กาดวโรรส  ตั้งอยู่ฝั่งด้านนอกคูเมืองแค่ข้ามสะพานนวรัฐ  เพียงลัดนิ้วมือก็ถึงแล้ว
เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด  ยามเช้าจะได้เห็นวิถีชีวิตคนเมืองและนักท่องเที่ยวมาซื้ออาหารการกิน
และซื้อของฝากต่างๆ ที่ขึ้นชื่อของเชียงใหม่



   
     ของฝากที่ขึ้นชื่อก็คือใส้อั่ว  แคปหมู น้ำพริกหนุ่ม แหนม เสื้อผ้าพื้นเมือง
นอกจากนั้นยังมีผลไม้เมืองหนาวและยังเป็นตลาดดอกไม้เมืองหนาวที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย



   
       กาดวโรรส   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕  ทรงพระราชทานชื่อ
"ตลาดวโรรส" ตามพระนามของเจ้าอินทวโรรส  แต่่ชาวเมืองมักเรียกกันว่า"กาดหลวง"...



           
    อาหารที่ผู้เขียนเห็นคนเมืองนิยมซื้อกันมากก็คือจิ๊น (หมูทอด )  ทานกับข้าวเหนียว
ผู้เขียนจึงอดไม่ได้ที่จะต้องซื้อมากินทุกเช้า ทั้งหมูทอดและข้าวเหนียวจะบรรจุถุงและห่ออย่างละ
ไม่มาก       ถึงว่า  "คนเมืองไม่ค่อยอ้วน" ส่วนมากหุ่นดีกันทั้งนั้นครับ



    
         มีของแถมดังที่ได้เคยเกริ่นไว้แล้วคือแวะ "กาดต้นลำไย" หรือตลาดต้นลำไย นั่นเองครับ
อยู่ใกล้ๆกับตลาดวโรรส  กาดต้นลำไย เด่นเรืองอาหารทั้งของสดและของแห้ง เน้นเฉพาะสินค้า
ที่ผลิตขึ้นเองในท้องถิ่นเท่านั้น



        
       ตัวตลาดตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง  บรรยากาศคล้ายกับตลาดวโรรส  แต่เหมาะที่จะมาเดินเที่ยว
ตอนยามเย็นเมื่อแดดร่มลมตกเพื่อหาซื้อของฝากจากผู้ผลิตโดยตรง   ก็ต้องขอบอกว่าเมื่อได้มา
เที่ยวตลาดวโรรสและตลาดต้นลำไยแล้วจะได้บรรยากาศที่ประทับใจจนลืมไม่ลงครับ....







                                            ..........&&&&&&&&&&&&&&&.........










 credit : www.warorosmarket.com
            www.mowhoop.com
            www.learners.in.th
            www.i-rabbit.blogspot.com
            www.bangkokbiznews.com

Tips magazine ( 99สุดยอดที่เที่ยวในเชียงใหม่ )









วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556

การเลือกซื้อมะพร้าวน้ำหอม


                                               มะพร้าวน้ำหอม




                 ในบทความคราวก่อนที่ผู้เขียนได้เคยแนะนำเกี่ยวกับการเลือกซื้อส้มโอ

และได้กล่าวถึงการเลือกซื้อมะพร้าวน้ำหอมซึ่งจะมาแนะนำแก่พี่น้องในโอกาสต่อไปนั้น




                   จึงได้รวบรวมข้อมูลสำคัญๆ มาแนะนำเกี่ยวกับการเลือกซื้อมะพร้าวน้ำหอม

ให้ได้คุณภาพความหวาน  หอม  ชื่นใจ  รวมทั้งได้คุณภาพของเนื้อมะพร้าวที่อ่อน  นิ่ม อร่อย 

ตามความชอบของแต่ละท่าน



                        มะพร้าวน้ำหอมมีอยู่ 3 ชนิด




                           1.พันธุ์ก้นจีบลูกใหญ่   เป็นที่นิยมโดยทั่วไป   มีความต้องการ

ของตลาดสูงทั้งภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ





                         2.พันธุ์ก้นจีบลูกเล็ก   ผลค่อนข้างเล็กและยาวรี  นิยมนำไปทำมะพร้าวเผา





                               3.พันธุ์เกษตร ลูกกลมน้ำหอม  ต่างประเทศนิยมซื้อแบบเอ่อนจัด

บริโภคแต่น้ำมะพร้าวอย่างเดียวแทบจะไม่มีเนื้อมะพร้าว




                การเลือกซื้อมะพร้าวน้ำหอมก็คือมะพร้าวอ่อนนั่นเอง  ใช้สายตาคาดคะเนเอาว่า

อ่อนแก่ตามประสบการณ์แบบง่ายๆ  คราวนี้มาถึงทีเด็ดเคล็ดลับที่จะนำมาฝากพี่น้องเป็นหัวใจ

ของบทความนี้ก็คือที่ขั้วมะพร้าวแต่ละลูกจะมีหางหนูอยู่ลูกละ 1 เส้น ( ดังภาพด้านบน )





                   เคล็ดลับก็มีอยู่ว่าถ้าต้องการทานเนื้อที่กำลังอ่อนพอดี ( เนื้อกุ้ง ) คือเนื้ออ่อน

นิ่ม  เหมือนเนื้อกุ้ง สีขาวใส    ให้ดูรอยไหม้ที่หางหนูจะอยู่กึ่งกลาง ( ครึ่งต่อครึ่งพอดี ) 





                   ดูจากภาพด้านบนมะพร้าวทะลายนี้ค่อนข้างแก่( หางหนูไหม้มาก ) แบบนี้

เนื้อหนา   น้ำหอมมาก  เหมาะที่จะนำไปทำเป็นมะพร้าวเผาเพราะจะได้ เนื้อหนา


                     


 มะพร้าวที่ชาวสวนตัดออกขายนั้นมีอยู่ 3 แบบ ( ตามอายุมะพร้าว 190-210 วัน )


1. มะพร้าวอ่อนเนื้อ 1 ชั้น ( บางใสเหมือนวุ้น ) น้ำไม่ค่อยหวาน ( เปรี้ยวและซ่าลิ้น ) 

ได้น้ำมะพร้าวเยอะนิยมส่งออกต่างประเทศ (จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ใต้หวัน) อายุประมาณ190วัน






2.มะพร้าวอ่อนเนื้อชั้นครึ่ง ( เนื้อกุ้ง ) อายุประมาณ 200 วัน หางหนูไหม้ครึ่งเส้นพอดี เป็นที่นิยม

โดยทั่วไป  เนื้อมะพร้าวอ่อนนิ่ม  ด้านในขาวด้านนอกใสเป็นวุ้น  น้ำมะพร้าวหวานหอมกำลังดี



3.มะพร้าวอ่อนเนื้อ 2 ชั้น เนื้อหนา น้ำมะพร้าวหอมหวานมาก นิยมนำไปทำมะพร้าวเผา ทำอาหาร

ทำขนมต่างๆ  ความหวานประมาณ 6.6 - 7 เปอร์เซนต์บริกซ์ ( brix ) อายุประมาณ 210 วัน




           ขอเน้นเรื่องหางหนูว่าถ้าต้องการน้ำมะพร้าวหวานก็ต้องแก่หน่อย  ถ้าต้องการ

เนื้อวุ้นก็ต้องอ่อนแบบหางหนูไหม้น้อย   ถ้าต้องการเนื้อกับน้ำพอดีๆกันก็เลือกแบบที่

หางหนููไหม้ครึ่งเส้นพอดี  

   
           ถ้าไม่มีหางหนูหรือปอกมาเรียบร้อยแล้วก็แนะนำให้ใช้วิธีคลอนน้ำ ( เขย่า )ฟังเสียง

น้ำมะพร้าว   ถ้าไม่คลอนแสดงว่าอ่อน   ถ้าเสียงน้ำคลอนมากก็แสดงว่าแก่


        ส่วนเรื่องการเลือกแฟนว่าอ่อนหรือแก่วันหน้าจะมาเหลาต่อเรื่องการประทินผิวนะครับ


                                       ..............$$$$$$$$$$$$$$$$$...................



ปัจฉิมลิขิต :  วันหน้าจะมาเหลาต่อเรื่องวุ้นมะพร้าวอ่อนกับห่อหมกมะพร้าวอ่อน



credit : www.app.tisi.go.th
           www.oonsura.wordpress.com
           www.thaimtb.com
           www.poonitafarm.blogsport.com
           www.inter.touristmthailand.org
           www.nakhonpathom.mots.go.th
           www.barameecococup.in.th